กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 11 ธ.ค. 2568
11 ธ.ค. 2025
Day วานนี้ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงหลังกลับขึ้นมาทดสอบบริเวณแนวต้านที่ให้ไว้ กรอบ 58.759-58.987 ลฝมาบริเวณแนวต้าน 57.592 (ตามคาด) ซึ่งเป็นจุดต่ำจาก Low เดิม ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นกลับทันที หลังปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence ประกอบกับ ตลาดมีการเปิดเผยว่าสหรัฐฯ ได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน อีกทัง้การปรับลดอัตราดอกเบี้ย Fed ลง 0.25% ตามคาด ยิ่งส่งผลให้ USD อ่อนค่า และเป็นปัจจัยบวกน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 58.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.4%
สหรัฐยึดเรือน้ำมันเวเนซุเอลา่ขนาดใหญ่ อ้างเรือลักลอบขนส่งผิดกฎหมาย… ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- 11 ธ.ค.ทรัมป์ แถลงวา กองกำลังสหรัฐ ได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ ใกล้ชายฝั่งเวเนซุเอลา ซึ่งเป็น เรือบรรทุกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่สหรัฐฯ เคยยึดมา ซึ่งเป็นเรือที่เคยถูกคว่ำบาตรตั้งแต่ก่อนหน้า และเกี่ยวข้องกับการลับลอบขนน้ำมันผิดกฎหมาย
- กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่าเรือลำนี้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายขนส่งน้ำมันผิดกฎหมายที่เคยถูกคว่ำบาตร และมีบทบาทในการขนส่งน้ำมันจากเวเนซุเอลาและอิหร่าน
- ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน — รัฐบาลเวเนซุเอลาได้ประณามการยึดเรือครั้งนี้ว่าเป็น การละเมิดอธิปไตยและโจรสลัดทางทะเล, และกล่าวว่าจะปกป้องทรัพยากรของตนเอง
FOMC ตัดสินในปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากการประชุมคืนที่ผ่านมา … ปัจจัยกดดัน USD ปัจจัยบวกต่อ น้ำมัน (ฐานะสินทรัพย์จับคู่)
- 11 ธ.ค. FOMC ของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลงมติ ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% คืนที่ผ่านมา หลังการลดแล้ว อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ในช่วง 3.50%–3.75% นี่ถือเป็น การลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ติดต่อกันในปีนี้ (ทุกครั้งลดลง 0.25%)
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน มี **มติ 9 (เห็นด้วย) ต่อ 3 (ไม่เห็นด้วย) เสียงในการลดอัตราดอกเบี้ย.
– 2 เสียงต้องการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ (Austan D Goolsbee และ Jefferey R Schmin)
– 1 เสียง ต้องการให้ลดมากกว่าเดิม ที่ 0.5% (Stephen I Miran) - Dot Plot หลังประชุม สะท้อน ว่า ปี่ 2026 จะมีการลดดอกเบี้ย เพียง 1 ครั้ง (การประชุมคร้งก่อนคาดลด 2 ครั้ง)
- ถ้อยแถลง พาวเวล์ ในเชิง Dovish แม้จะไม่มีการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็ว ๆ นี้ แต่เฟดสื่อสารว่า ยังเปิดทางให้ลดอัตราดอกเบี้ยได้ในอนาคต
– แนวโน้มตลาดแรงงานและเงินเฟ้อไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจากการประชุมครั้งก่อน เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดี การคาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2026 ถูกปรับขึ้น
– การเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้น เป็นมาตรการเพื่อช่วยควบคุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้มีประสิทธิภาพ
– ภาคที่อยู่อาศัยอ่อนแอ
– ตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อฝั่งสินค้าเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น มีข้อมูลเกี่ยวกับเงินเฟ้อออกมาน้อยมากตั้งแต่การประชุมเดือนตุลาคม แต่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในระยะสั้นยังมีแนวโน้มเอียงไปทางสูงขึ้น
– Powell กล่าวว่าไม่มีเส้นทางนโยบายการเงินใดที่ปราศจากความเสี่ยง
– ตราดอกเบี้ยในขณะนี้อยู่ในกรอบที่ “เป็นไปได้” หรือ “ใกล้เคียง” กับระดับดอกเบี้ยที่ถือเป็นกลาง (Neutral Rate) แต่นโยบายการเงินไม่ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นเส้นทางตายตัว โดยเฟดจะตัดสินใจตามแต่ละการประชุม (พิจารณาข้อมูลรอบต่อรอบ)
– Powell ระบุว่า การซื้อพันธบัตรรัฐบาล (Treasury) อาจยังอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกไม่กี่เดือน (สะท้อนว่าเฟดอาจคงการเข้าซื้อเพื่อดูแลสภาพคล่องในระบบต่อเนื่องช่วงสั้น ๆ)
– เฟดอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะรอดูพัฒนาการของเศรษฐกิจต่อจากนี้ (แสดงว่าเฟดจะยังไม่รีบขยับนโยบายรอบใหม่ และจะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อน)
– เฟดจะได้รับข้อมูลจำนวนมากก่อนการประชุมเดือนมกราคม เป้าหมายทั้งสองของเฟดมีความขัดแย้งกันเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ทุกคนในที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่สูงเกินไป
– ผลของการปรับลดดอกเบี้ยที่ผ่านมา เพิ่งเริ่มส่งผลเข้ามาเท่านั้น เฟดจำเป็นต้องดูข้อมูลด้วยความระมัดระวัง
– เพราะไม่ได้เก็บข้อมูลในเดือนตุลาคมและช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น ข้อมูลอาจบิดเบือนจากปัจจัยทางเทคนิค
– การขึ้นดอกเบี้ยไม่ใช่กรณีฐานของใครเลย โดย Powell บอกว่าไม่ได้ยินจากใครว่าควรขึ้นดอกเบี้ย บางคนคิดว่าเฟดควร “หยุดและรอดูสถานการณ์” ในขณะที่คนอื่นคิดว่า “ควรลดดอกเบี้ยหนึ่งครั้งหรือมากกว่านั้น” กรรมการเฟดมองว่ามีโอกาส “คงดอกเบี้ยหรือปรับลดดอกเบี้ย” ไม่ใช่การขึ้นดอกเบี้ย
-Powell ไม่คาดว่าจะเกิดการชะลอตัวของตลาดแรงงานอย่างรุนแรงในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับปกติ neutral range
– อย่างไรก็ดี Powell คิดว่าตัวเลขการจ้างงาน (Payrolls) อาจติดลบประมาณ 20,000 ตำแหน่งต่อเดือน และตัวเลขการจ้างงานถูกประเมินเกินจริงประมาณ 60,000 ตำแหน่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
รายงานน้ำมันคงคลังรายสัปดาห์ EIA สอดคล้อง API สต็อกลดลง … ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน
- 5 ธ.ค. EIA (Energy Information Administration) รายงานน้ำมันคงคลังรายสัปดาห์
– ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง (Crude Oil) ลดลงประมาณ −1.812 ล้านบาร์เรล สะท้อนความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น
H4/H1 สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลง ระดับ H4 ราคายืนเหนือจุดสิ้นสุดขาลงได้ไม่นานก็ปรับตัวร่วงลงวานนี้ ที่ ระดับ 57.694 (ตรงกับ Fibo Retracement 78.6%) ราคามีการ rebound ขึ้นทันที (สัญญา Bullish Divergence H1)
คำแนะนำ
- เปิดสถาน:ซื้อ (รอสัญญาณซื้อ ) กรอบ57.396-57.031 / SL 56.500 เพือทำกำไร ที่ 57.563/57.662/57.829/57.946/58.209/58.444
- /เปิดสถานขาย (รอสัญญาณขาย) กรอบ 58.538-58.959 / S: 59.300 เพื่อทำกำไร 58.500/58.300/58.000/57.800
แนวรับ 57.607/57.3965/57.031
แนวต้าน 59.983/59.671/60.325

ปฎิทินข่าว 11 ธ.ค.2568


บทวิเคราะห์ข่าว
- ติดตามรายงานประจำเดือนของกลุ่ม OPEC ซึ่งจะบอกถึง การคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบของโลกทั้งปีและปีหน้า /ตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบของประเทศสมาชิก OPEC /อัตราการปฏิบัติตามข้อตกลงระบบโควตาฯลฯ
- ตัวเลขจำนวนผุ้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์จะสะท้อนสภาพ เศรษฐกิจ ของสหรัฐ และอุปสงค์ความต้องการน้ำมัน
– หาก จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการวางานมากขึ้น จาก คาดการณ์ สะท้อนเศรษฐกิจในสหรัฐ ชะลอตั อุปสงค์ต่ำ ราคาำน้ำคาดชะลอตัว
โดย Trin Anuwattanawong